สวัสดีครับเพื่อนๆ คงสบายกันดีอยู่นะครับ ดูและสุขภาพกันดีๆด้วยเน้อ
อ่า ฮ่า วันนี้ผมก็มีบทความดีๆมาฝากกันอีกเช่นเคยครับ เพราะผมและเพื่อนๆกำลังสนใจในสิ่งเดียวกัน ซึ่งนั่นก็คือ การสร้างธุรกิจออนไลน์บนอินเตอร์เน็ตที่สามารถสร้างอิสรภาพให้กับตัวเราได้ แต่
เพื่อนๆเชื่อหรือไม่ครับว่าวันนี้เรายังมี “เส้นผมบังภูเขา”
อยู่เส้นหนึ่งซึ่งใหญ่มาก
ใหญ่เสียจนทำให้เพื่อนๆของเราบางคนถึงกับเลิกล้มความตั้งใจในการทำรายได้
จากธุรกิจประเภทนี้กันเลยก็ว่าได้ เส้นผมที่ว่านั้นคืออะไร?
ถ้าอย่างนั้นผมก็อยากให้เพื่อนๆถามตัวเองนะครับว่า เคยเกิดคำถาม
เหล่านี้ระหว่างที่กำลังศึกษา ธุรกิจ Online หรือ Online Business อยู่บ้างมั้ย เจ้าคำถามประเภทที่ว่า
จดหมายและฟอร์มทุกตัวอักษรนี้คือเครดิตรจาก
อาจารย์วรวุฒิ คำพาสี Professional Affiliate ซึ่งผมได้นำมาเป็นแบบอย่างในการทำธุรกิจแบบAutoresponse อย่างแท้จริง
ขอขอบพระคุณ ที่ได้ส่งมอบบทเรียนและให้ความรู้ด้านออนไลน์โดยไม่มีปิดบังแต่อย่างใดครับ
อาจารย์วรวุฒิ คำพาสี Professional Affiliate ซึ่งผมได้นำมาเป็นแบบอย่างในการทำธุรกิจแบบAutoresponse อย่างแท้จริง
ขอขอบพระคุณ ที่ได้ส่งมอบบทเรียนและให้ความรู้ด้านออนไลน์โดยไม่มีปิดบังแต่อย่างใดครับ
” เอ่อ…เจ้าธุรกิจตัวนี้ ตกลงมันเป็นอะไรกันแน่หว่า? อ่านแล้วงง เหมือนไม่รู้อะไรเลยสักนิด”
” แล้ว…เจ้าธุรกิจตัวนี้ มันเป็นของบริษัทอะไรหว่า ตั้งอยู่ที่ไหน หน่วยงานไหนรับรองก็ไม่เห็นบอก”
“เอ่อ แล้วเราต้องทำอะไรบ้างเนี่ยถึงจะได้ตังค์ ไม่เห็นบอกเลย บอกแต่ว่าทำงานจากที่บ้านอย่างโน้น ทำงานผ่านเน็ต อย่างนี้”
“แล้วสุดท้าย เราต้องไปขายสินค้า หรือแสดงผลิตภัณฑ์ ให้คนอื่นดูรึเป่าเนี่ย?”
“แล้วเจ้าธุรกิจนี้
มันถูกต้องตามกฎหมาย รึเปล่าหล่ะเนี่ย?
ไม่เอานะ ไม่ต้องเอาทะเบียนพาณิชย์อิเล็คทรอนิกส์มาล่อหรอก ผมรู้ดีว่า
ทะเบียนพาณิชย์อิเล็คทรอนิกส์มีไว้เพื่อแสดงว่าเว็ปนี้มีตัวตนเท่านั้น ไม่ได้รับประกันเลยว่า “การดำเนินงานของธุรกิจจะถูกกฎหมาย หรือจะไม่ปิดหนี”
เลยแม้แต่นิดเดียว เพราะ ผมเคยเจอมา 5-6 เว็ปแล้วที่เป็นแบบนี้
เจ้าของเว็ปมักอ้างว่ามีทะเบียนพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ พอถึงเวลาก็ปิดหนี
ไม่มีวี่แวว เปลี่ยนหน้าเว็ปไปโปรโมทอย่างอื่นก็มี ทำเนียนเลย
ไม่เอาอีกแล้ว เข็ดๆ”
และผมเชื่อว่ายังมีอีก หลายๆ
คำถามที่ผมไม่ได้ยกตัวอย่างมาที่นี้
แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นล้วนมีสาเหตุมาจากความไม่รู้ ไม่เข้าใจ หรือสับสน
ระหว่าง ธุรกิจ Online และ การใช้สื่อ Online ในการทำธุรกิจ
ก่อนอื่นผมคงต้องถามเพื่อนๆก่อนเลยว่า
“เพื่อนๆแยกออกหรือไม่ครับว่า อะไรคือ ทำงานออนไลน์ อะไรคือ ใช้สื่อออนไลน์ในการทำงาน?”
นี่เป็นคำถามที่ classic ตลอดการ
และทำให้เพื่อนๆเข้าใจผิดกันว่า ที่จริงแล้วธุรกิจ online ก็คือ การใช้สื่อ
internet มาโปรโมทธุรกิจเพื่อหาตัวแทนจำหน่าย หรือจำหน่ายสินค้า ประเภท
อาหารเสริม หรือเครื่องสำอาง อะไรทำนองนั้นแต่นั่นเป็นการเข้าใจผิดครับ
และเป็นการเข้าใจผิดอย่างมโหราฬด้วย เพราะที่จริงแล้ว ทั้ง 2 อย่างนั้น
ต่างกันคนละขั้วเลยครับ
“เอาหล่ะครับผมขอแยกง่ายๆ เพื่อนให้เพื่อนๆเข้าใจก็แล้วกันครับ”
การทำงานออนไลน์ คือ
การทำงานผ่าน internet เท่านั้น ไม่ต้องไปข้องเกี่ยวกับ การจัดส่งสินค้า
ไม่ต้องไปสาธิตสินค้า ไม่ต้องไปขายของ สินค้าที่ได้จากการทำงาน online
นั้น จะต้องสามารถสร้างรายได้จากตัวมันได้ ไม่ได้มีเอาไว้บริโภค หรือ
บำรุงผิว อย่างเดียว อีกทั้งไม่ต้องไปพบลูกค้า
ไม่ต้องไปง้อใคร ไม่ต้องไปประชุมนอกสถานที่ ที่สำคัญคือต้องลงทุนไม่มาก และ
ถูกกฎหมาย(อย่าไปหลงกับทะเบียนพาณิชย์ที่เค้าเอามาอ้างนะครับ)
ส่วนการใช้สื่อออนไลน์ใน
การทำงาน จะเป็นการกล่าวอ้างว่า “ทำงานออนไลน์” โดยใช้สื่อโฆษณาบน internet
โดยมักจะมีหัวข้อโน้มน้าวให้เข้าใจว่า ”ทำงานจากที่บ้าน”(แต่ทำไมเราต้องออก
ไปประชุมด้วยหว่า??) แต่พอเมื่อเข้าไปทำงานแล้ว จะต้องซื้อสินค้าเพื่อปิด
ยอด หรือขึ้นตำแหน่ง และต้องซื้อสินค้าทุกๆเดือนจึงจะได้รายได้ ( ส่วนใหญ่
มักจะเป็นพวกอาหารเสริมหรือไม่ก็เครื่องสำอาง
หรือครีมบำรุงผิวลดริ้วรอยต่างๆ ) เพราะฉะนั้น
เพื่อนๆก็อาจจะสังเกตง่ายๆว่าสิ่งที่เรากำลังจะเข้าไปทำ นั้นเป็น
การทำงานออนไลน์ หรือ การใช้สื่อออนไลน์ในการทำงาน โดยดูจากสินค้าครับ
ถ้าเป็นพวกที่ต้องกิน (เช่น อาหารเสริม เป็นต้น )หรือใช้ครีมบำรุงผิว
ส่วนใหญ่เกือบ 100% จะเป็นการ ใช้สื่อออนไลน์ในการทำงาน เพราะสุดท้ายแล้ว
เราก็ต้องซื้อสินค้ามาใช้อยู่ดี
“ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ยังมีธุรกิจที่ไม่ได้อยู่ทั้ง 2 พวกอยู่นะครับ”
ตรงนี้ต้องระวังให้ดี เพราะ เพื่อนๆหลายๆคนตกเป็นเหยื่อเว็ปเหล่านี้มาแล้ว คือ
ไม่ได้ขายอาหารเสริม ครีมบำรุงผิว หรือครีมลบริ้วรอย แต่อย่างใด (
อันนี้ก็ไม่เข้าข่าย การใช้สื่อออนไลน์ในการทำงาน )แต่เว็ปเหล่านี้มักอาศัย
ความไม่รู้ของคนในการสร้างธุรกิจที่ไม่ถูกต้องขึ้นมา ( อันนี้ไม่เข้าข่าย
การทำงานออนไลน์แต่อย่างใด) เพราะ ไม่มีหน่วยงานไหนรับรองการทำธุรกิจของเขา
เว็ปพวกนี้มักจะอ้างว่าจดทะเบียนพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์เรียบร้อยแล้ว
แหมฟัง ดูผิวเผินเหมือนกับว่าอืม….มันก็น่าจะถูกต้องนี่นา
แต่ไม่ใช่เลยครับ มีเหยื่ออีกหลายคนที่ไม่รู้
รวมทั้งเพื่อนๆบางคนของเราด้วย
“ถ้างั้นผมก็จะขออธิบายให้ฟังง่ายๆก็แล้วกันนะครับ”
การจดทะเบียนพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
นั้นเป็นการรับรองว่าเว็ปนี้ได้มีการกระทำการเชิงพาณิชย์
เท่านั้น “มิได้รับรองว่าการกระทำการใดๆของเว็ปนั้นเห็นชอบด้วยกฎหมายหรือ
ไม่” ( อันนี้ก็จะเหมือนกับใบรับรองร้านค้าที่ออกให้กับร้านค้า
ว่าสามารถขายของได้
แต่ไม่ได้รับรองว่าของที่ขายนั้นจะถูกต้องตามกฎหมายทุกตัว
ถ้าเจ้าของร้านคนใด ขายของที่กฎหมายไม่รับรอง
ก็ถือว่ามีความผิดตามกฎหมายอยู่ดี ) เอาง่ายๆครับ เค้า
แค่รับรองการมีเว็ปเท่านั้น ไม่ได้รับรองว่าดำเนินธุรกิจถูกต้องหรือไม่
และไม่ได้รับรองว่าเว็ปนี้ หรือ
บริษัทนี้จะปิดหนีหรือป่าว เว็ปพวกนี้จึงมีความเสี่ยงอย่างมาก
เพื่อนๆควรพิจารณาให้ดีนะครับ
“เพราะ
ผมเห็นมากับตาเลยครับ เปิดเว็ปขึ้นมา จดทะเบียนพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
หาคนเข้าเว็ป เสียเงิน แบ่งเงินกัน พอกิจการไม่ดีก็ชิงปิดเว็ปหนีซะงั้น
แล้ว ทะเบียนพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ มีไว้ทำอะไรครับ??”
เพราะฉะนั้นเพื่อนๆต้องพิจารณาให้
ดีจริงๆนะครับ หรืออาจใช้คำแนะนำ วิธีการเลือกธุรกิจ online
ที่เหมาะสมกับตัวเพื่อนๆเอง ตามที่ผมได้แนะนำไปแล้วก็ได้ครับ
หรือหากเพื่อนๆมีคำถามหรือข้อสงสัยจะสอบถามผมโดยตรงก็ได้นะครับ ผมหวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์แก่เพื่อนๆที่กำลังหลงทาง หรือเข้าใจผิดอยู่ ให้เข้าใจและ
“ใช้สติก่อนความโลภในการพิจารณาสิ่งใดๆนะครับ”
หรือ อาจใช้หลักการในการพิจารณาตามที่ผมแนะนำไปแล้วก็ได้ครับ
จดหมายและฟอร์มทุกตัวอักษรนี้คือเครดิตรจาก
อาจารย์วรวุฒิ คำพาสี Professional Affiliate ซึ่งผมได้นำมาเป็นแบบอย่างในการทำธุรกิจแบบAutoresponse อย่างแท้จริง
ขอขอบพระคุณ ที่ได้ส่งมอบบทเรียนและให้ความรู้ด้านออนไลน์โดยไม่มีปิดบังแต่อย่างใดครับ
อาจารย์วรวุฒิ คำพาสี Professional Affiliate ซึ่งผมได้นำมาเป็นแบบอย่างในการทำธุรกิจแบบAutoresponse อย่างแท้จริง
ขอขอบพระคุณ ที่ได้ส่งมอบบทเรียนและให้ความรู้ด้านออนไลน์โดยไม่มีปิดบังแต่อย่างใดครับ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น